วิธีตรวจเช็กความตึงสายพานด้วยตัวเองง่าย ๆ


วิธีตรวจเช็กความตึงสายพานด้วยตัวเองง่าย ๆ

เช็กความตึง...ก่อนที่สายพานจะหย่อนเกินไป

การใช้งานสายพานลำเลียงในโรงงาน หากความตึงของสายพานไม่เหมาะสม อาจก่อให้เกิดปัญหาทั้งในเรื่องของประสิทธิภาพการลำเลียง ไปจนถึงการสึกหรอของสายพานและมอเตอร์อย่างรวดเร็ว ซึ่ง  การตรวจเช็กความตึงของสายพาน  เป็นสิ่งที่ทุกโรงงานควรทำเป็นประจำ

ไม่จำเป็นต้องใช้เครื่องมือวัดขั้นสูง คุณสามารถตรวจเบื้องต้นได้ด้วยวิธีง่าย ๆ ต่อไปนี้


วิธีตรวจเช็กความตึงสายพานแบบง่าย ๆ

1.  ใช้แรงกดด้วยนิ้วมือ

  • กดสายพานตรงกลางระหว่างลูกรอกสองฝั่ง

  • หากกดแล้วสายพานหย่อนลงมากกว่า 1–1.5 ซม. (หรือมากเกินมาตรฐานของรุ่นนั้น) อาจแปลว่าความตึงไม่เพียงพอ

2.  ฟังเสียงตอนเดินเครื่อง

  • ถ้าสายพานตึงเกินไป มักเกิดเสียงดัง "หอน" หรือมีเสียงกระชาก

  • ถ้าหย่อนเกินไป อาจมีเสียง "ตบ" หรือสั่นในจังหวะหมุน

3.  ดูรอยสึกหรือการเบี่ยงของสายพาน

  • สายพานหย่อนเกินไปอาจทำให้เบี่ยงออกจากแนว และเกิดการสึกหรอไม่สม่ำเสมอ

  • หากสายพานเบี้ยวไปข้างใดข้างหนึ่ง ต้องตรวจระบบตั้งศูนย์ร่วมด้วย

4.  วัดค่าความตึงด้วยเกจวัด (Tension Gauge)

  • หากต้องการแม่นยำ ควรใช้เกจเฉพาะรุ่น เช่น spring tension gauge หรือ digital belt tension meter

  • ใช้คู่กับคู่มือของสายพานแต่ละชนิด เพื่อให้ค่าความตึงอยู่ในเกณฑ์ที่ผู้ผลิตแนะนำ


🧑‍🔧 ทำไมต้องตรวจเช็กความตึงของสายพานเป็นประจำ?

  • ลดโอกาสสายพานขาด หรือหลุดจากลูกรอก

  • ยืดอายุการใช้งานของทั้งสายพานและมอเตอร์

  • ประหยัดพลังงานมากขึ้น เพราะไม่เกิดแรงต้านเกินจำเป็น

  • ป้องกัน downtime และการหยุดเครื่องโดยไม่จำเป็น


แม้จะไม่มีเครื่องมือเฉพาะ คุณก็สามารถตรวจความตึงของสายพานได้ด้วยตนเอง และหากพบว่าสายพานหลวม หย่อน หรือตึงเกินไป ควรปรับตั้งให้เหมาะสมทันที หรือปรึกษาผู้เชี่ยวชาญเพื่อป้องกันความเสียหายในระบบระยะยาว

สอบถามเพิ่มเติม 
Line ID : @BestConveyorCenter ( มีตัว @ ด้วยนะครับ )
โทร 
       086-327-2600

BestConveyorCenter

สินค้าโรงงาน แนะนำโดยวิศวกร